ร้านค้าออนไลน์หรือร้านค้าออฟไลน์ดีกว่ากัน

ร้านค้าออนไลน์

ร้านค้าออนไลน์

ยุคนี้เป็นยุคที่ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมีมูลค่าที่สูงมาก การทำงานเพียงอย่างเดียวไม่สามารถสร้างรายได้ให้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายได้ ซึ่งทางออกก็คือการเปิดร้านค้าเพื่อขายสินค้า แต่เมื่อเปิดแล้วควรจะเปิดร้านค้าออนไลน์หรือร้านค้าออฟไลน์ดีกว่ากัน วันนี้เรามีข้อเปรียบเทียบมาให้ดูกัน

1.ค่าเช่า

ร้านค้าออนไลน์ มีค่าใช้จ่ายในการเช่าร้านค้าที่ไม่สูงมากหรือบางแฟลตฟอร์มที่สามารถทำการขายสินค้าออนไลน์ได้ก็ไม่มีค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว

ร้านค้าออฟไลน์ มีค่าใช้จ่ายในการเช่าร้าน ทั้งแบบถูกและแพงขึ้นอยู่กับสถานที่การขาย

2.เวลาทำการ

ร้านค้าบนออนไลน์ สามารถกำหนดเวลาการขายได้ด้วยตัวเจ้าของร้าน หรือจะทำการเปิดขายตลอด 24 ชั่วโมงก็ได้ เพราะลูกค้ามีการเข้ามาใช้บริการตลอดเวลาอยู่แล้ว

ร้านค้าออฟไลน์ เวลาทำการขึ้นอยู่กับสถานที่ที่ทำการเช่าเปิดร้าน ซึ่งผู้ขายจะต้องเลือกสถานที่ตามเวลาที่ตนเองว่างเพื่อทำการขายสินค้า แต่ไม่สามารถเปิดทำการได้ตลอด 24 ชั่วโมง

3.ความน่าเชื่อถือ

ร้านค้าบนออนไลน์ มีความน่าเชื่อถือน้อย เพราะไม่มีสถานที่ตั้งชัดเจน บางครั้งร้านค้าบางแห่งไม่มีสินค้าเป็นของตัวเอง แต่เป็นแค่ตัวแทนขายเท่านั้น ทำให้ความน่าเชื่อถือของร้านค้าแบบนี้มีน้อยมาก

ร้านค้าออฟไลน์ มีความน่าเชื่อถือสูง เพราะมีสถานที่ตั้งชัดเจน สามารถตรวจสอบหรือไปรับสินค้าได้ที่ร้านโดยตรง

จะเห็นว่าร้านค้าออนไลน์และร้านค้าออฟไลน์ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกัน แต่หากต้องการให้ร้านที่เปิดมีความน่าเชื่อถือและมีลูกค้าเข้ามามาก การจดทะเบียนการค้าจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าแบบไหน เพราะมีการยืนยันตัวตนที่ชัดเจน

ทำอย่างไรให้ร้านค้าออนไลน์อยู่ได้ในยุคการแข่งขันสูง

ร้านค้าออนไลน์

ร้านค้าออนไลน์

การแข่งขันของร้านค้าออนไลน์ในทุกวันนี้ถือว่ามีการแข่งขันที่สูงมาก เพราะว่าจำนวนผู้ค้าที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีทั้งที่ขายสินค้าชนิดเดียวกันและสินค้าต่างชนิดกัน ด้วยภาวการณ์แข่งขันที่สูงทำให้ผู้ค้าต้องปรับตัวเพื่อที่จะทำให้ร้านค้าของตนเองยังคงอยู่ได้ ซึ่งวันนี้เรามีเทคนิคที่จะช่วยเพิ่มยอดขายให้ร้านค้าของคุณได้ดังนี้

1.คอนเทนต์ต้องโดน

การสร้างคอนเทนต์หรือตัวตนของแบรนด์ต้องมีประโยชน์ตรงต่อกลุ่มเป้าหมายหรือกลุ่มลูกค้าที่คุณต้องการขายสินค้าให้ เพราะการสร้างคอนเทนต์ที่ดีจะช่วยดึงดูดปริมาณคนที่เข้ามาในร้านค้าให้มากขึ้นได้ ส่งผลให้มีคนรู้จักร้านค้าและสินค้าของคุณมากขึ้น

2.คุณภาพดี

สินค้าที่นำมาจำหน่ายต้องมีคุณภาพตรงตามที่ได้แจ้งไว้กับลูกค้า ไม่มีการนำสินค้าด้อยคุณภาพมาขายในราคาที่สูงเกินความจริง แน่นอนว่าคุณอาจจะขายได้ในครั้งแรก แต่ร้านค้าออนไลน์ของคุณจะไม่มีลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำแน่นอน

3.ตอบทุกคำถาม

แน่นอนว่าลูกค้าที่เข้ามาสนใจสินค้ามีเป็นจำนวนมาก และทุกคนจะมีคำถามเกี่ยวกับสินค้าของคุณ ซึ่งทุกคำถามที่ลูกค้าถามมา ผู้ขายจะต้องทำการตอบทุกคำถาม เพราะเราไม่สามารถรับรู้ได้ว่าลูกค้าคนไหนที่จะมาซื้อสินค้ากับเรา หากเราตอบคำถามของลูกค้าแล้ว ลูกค้าประมาณ 50-70% จะทำการซื้อสินค้ากับเรา แต่หากเราไม่ตอบคำถามของลูกค้าเลย นั่นหมายความว่าลูกค้าจะไม่ซื้อสินค้าเราแม้แต่คนเดียว

นี่กล่าวมานี้เป็นเทคนิคที่จะช่วยให้ร้านค้าออนไลน์ของคุณอยู่ได้ในยุคที่ตลาดออนไลน์มีการแข่งขันที่สูงมาก